รอยแผลเป็นจากสิว (หลุมสิว)

หลุมสิว: ปัญหากวนใจ รักษาได้จริง!

สิวหายแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังอยู่ หลุมสิวกลายเป็นปัญหาหนักใจสำหรับใครหลายคน

หลุมสิวเกิดจากอะไร?

หลุมสิวเกิดจากการอักเสบของสิวที่รุนแรง ทำลายคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เมื่อสิวหาย ผิวจึงไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้สมบูรณ์ เกิดเป็นหลุมบุ๋มลงไปบนผิวหน้า

หลุมสิวมีกี่ประเภท?

หลุมสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

 1. หลุมสิวแบบรูเข็ม (Ice Pick Scar): หลุมสิวที่มีลักษณะแคบ ลึก และแหลมชี้ลงไปใต้ผิวหนัง

2. หลุมสิวแบบกล่อง (Box Scar): หลุมสิวที่มีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม ขอบเหลี่ยม มักเกิดจากสิวหัวช้าง

3. หลุมสิวแบบโรลลิ่ง (Rolling Scar): หลุมสิวที่มีลักษณะเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน มักพบบ่อยในคนที่มีผิวมัน

การรักษาหลุมสิวมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความลึก ประเภท และสภาพผิวของแต่ละบุคคล  วิธีการรักษาที่พบบ่อย ได้แก่

การทายา:

ยาที่มีส่วนผสมของ Retinoids: ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดเลือนรอยหลุมสิว เหมาะสําหรับหลุมสิวตื้นๆ

กรดวิตามินซี: ช่วยลดรอยหลุมสิว รอยดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับหลุมสิวตื้นๆ

การทำหัตถการ:

เลเซอร์หลุมสิว: มีหลายชนิด เช่น เลเซอร์ CO2 เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น เหมาะสำหรับหลุมสิวทุกประเภท

การกรอผิว (Dermabrasion): ช่วยขัดผิวชั้นบนออก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะสําหรับหลุมสิวปานกลางถึงลึก

การตัดพังผืด (Subcision): ใช้เข็มขนาดเล็กแทงเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณหลุมสิว เพื่อตัดพังผืดที่รั้งผิวหนังลง ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น เหมาะสําหรับหลุมสิวชนิด Ice Pick Scars และ Boxcar Scars

ก่อน
ก่อน

มะเร็งปากมดลูก (มะเร็งปากมดลูก)

ต่อไป
ต่อไป

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก)