โรคสะเก็ดเงิน (โรคสะเก็ดเงิน)

มารู้จักกับโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก โรคนี้ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสุขภาพจิตและความเชื่อมั่นในตนเองของผู้ป่วยด้วย ในบทความนี้เราจะสำรวจโรคสะเก็ดเงินตั้งแต่อาการ สาเหตุ และวิธีการจัดการที่เหมาะสม


อาการของโรคสะเก็ดเงิน

  • ผิวหนังอักเสบเป็นปื้นแดง ขอบชัดเจน มีขุยคล้ายสะเก็ดสีเงิน ตำแหน่งที่พบได้บ่อยคือ เข่า ศอก สะดือ หนังศีรษะ มีอาการ เจ็บ คัน หรือรู้สึกแสบร้อน

  • เล็บมีอาการผิดปกติ


สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน

  • สาเหตุของโรคยังไม่เป็นที่ทราบอย่างชัดเจน แต่คาดว่าเกิดได้จากปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม

  • ปัจจัยที่อาจส่งผลกระตุ้นให้เกิดโรค ได้แก่ อารมณ์เครียด ผิวหนังบาดเจ็บ (มีรอยฉีกขาด รอยแกะ รอยเกา เป็นต้น) อาการเจ็บคอที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) การเปลี่ยนแปลงของระดับออร์โมน และยาบางชนิด


ไขข้อสงสัย “โรคสะเก็ดเงิน” เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ?

  • พันธุกรรม (Genetics) เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่เป็นสาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน โดยพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินมีประวัติบุคคลในครอบครัวเดียวกันเป็นโรคสะเก็ดเงินมาก่อน

  • สิ่งแวดล้อม (Environmental factors) เช่น อากาศร้อนหรือเย็น การอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า การถูกแมลงสัตว์กัดต่อย

  • การติดเชื้อไวรัส เช่น กลุ่มไรโนไวรัส (Rhinoviruses) ไวรัสเอชไอวี (HIV) ไวรัสเอชพีวี (HPV) ไวรัสตับอักเสบซี (HCV)

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น สเตปโตคอคคัส (Streptococcus) ในระบบทางเดินหายใจ สาเหตุการเจ็บคอ ทอนซิลอักเสบ

  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ หากนอนดึกพักผ่อนน้อย ก็สามารถเสี่ยงเป็นสะเก็ดเงินได้

  • ความเครียด หากมีอาการเครียดสะสม ส่งผลต่อฮอร์โมน สามารถทำให้เป็นสะเก็ดเงินได้

  • ยาบางชนิด เช่น ยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta-blockers) ยาลิเทียม (Lithium)

  • การได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนัง หรือผิวหนังอักเสบหลังการผ่าตัด

โรคสะเก็ดเงิน อันตรายไหม ?

โรคสะเก็ดเงิน เป็นอาการอักเสบของผิวหนังเป็นปื้นแดง มีขอบชัดเจน มีขุยคล้ายสะเก็ดสีเทาเงิน สามารถพบได้ทั้งอาการเฉียบพลันและเรื้อรัง ตำแหน่งที่พบบ่อย คือ เข่า ศอก สะดือ หนังศีรษะ รองลงมาจะเป็นขาหนีบ รักแร้ อวัยวะเพศ ใต้ฐานเต้านม ความผิดปกติร่วมอื่นๆ ของอาการที่พบ คือ เล็บผิดปกติ และ ข้ออักเสบ

สะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ ควรดูแลไม่ให้ตัวเองเครียด คนรอบข้างควรให้กำลังใจ การกินอิ่มนอนหลับจะช่วยคุมให้โรคสงบได้ ผู้ป่วยควรดูแลตัวเอง รู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ รวมถึงควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้โรคมีความรุนแรงมากขึ้น

หากต้องการการรักษาที่ใกล้ชิดสามารถติดต่อเข้ามารักษาได้ที่โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังพร้อมให้การบริการอย่างเต็มที่

เช็คด่วน! อาการเหล่านี้บ่งบอกว่าคุณเป็น “โรคสะเก็ดเงิน”

  1. เป็นผื่นแดงหนา ขอบเขตชัดเจน มีสะเก็ดสีเงินปกคลุม

  2. เมื่อขูดลอกสะเก็ดออกจะพบจุดเลือดออกเล็ก ๆ บนรอยผื่น

  3. ผื่นอาจเกิดบนรอยแผลถลอกหรือรอยแผลผ่าตัด

  4. ผื่นอาจมีขนาดเล็ก หรือใหญ่กระจายทั่วร่างกาย

  5. ผื่นมักกระจายในบริเวณที่มีการเสียดสี

  6. ที่ศีรษะมีผื่นแดงลอกเป็นขาวคล้ายรังแค

  7. เล็บมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ผิดปกติ

  8. มีอาการปวด เนื่องจากการอักเสบ ทำให้ปวดข้อ

ใครที่มีอาการเหล่านี้ อย่ารอช้า!

สามารถนัดวันเพื่อเข้ามาปรึกษาและรักษาได้ที่โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ


การจัดการและรักษาโรคสะเก็ดเงิน

  • การรักษาโรคสะเก็ดเงินมุ่งเน้นที่การจัดการอาการและลดความรุนแรงของโรค

  • การใช้ยารับประประทาน อาจใช้ร่วมกับยาฉีด ixekizumab (Taltz) หรือการใช้ยาทาผิวหนัง เพื่อควบคุมอาการและลดการระบาดของโรค

  • การใช้ครีมเพื่อบำรุงผิวหนังและลดอาการคัน


การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต 

  • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ พักผ่อนไม่เพียงพอ

  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเครียดและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

  • พบแพทย์สม่ำเสมอ เพื่อพิจารณาการรักษาที่ถูกต้อง

  • การรักษาสุขภาพจิต และการปรับเปลี่ยนวิธีการคิดเชิงบวก

  • การรับรู้และเข้าใจถึงโรคเพื่อสนับสนุนตนเองและการพูดคุยกับบุคคลในครอบครัวและผู้ดูแล


รู้หรือไม่ ⁉️ สะเก็ดเงิน ไม่ใช่โรคติดต่อ ‼️

โรคสะเก็ดไม่ใช่โรคติดต่อ แต่สามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมได้ เป็นอาการผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้พัฒนาการของผิวหนังไม่สมบูรณ์ อาการของโรคสะเก็ดเงินที่พบจะเป็น ผื่นแดงหนา เมื่อขูดสะเก็ดออกจะพบเป็นจุดเลือดเล็กๆ ส่วนมากจะพบที่บริเวณข้อศอก หัวเข่า หน้าแข้ง ลักษณะของอาการสามารถเป็นผื่นขนาดเล็กหรือกระจายทั่วร่างกายได้ หากผิวหนังถลอกเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดผื่นบริเวณนั้นได้


โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จึงจำเป็นต้องรักษาระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกำเริบของโรค ถ้าผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงต้องมีการทานยาควบคู่ด้วยและต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่เชี่ยวชาญ หากต้องการคำปรึกษาในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน สามารถจองคิวเพื่อทำการนัดรักษาได้ที่ โรงพยาบาลผิวหนังอโศก เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคผิวหนังทุกชนิด


จุดพบบ่อยของ “ โรคสะเก็ดเงิน “


อาการของโรคสะเก็ดเงินส่วนมากจะมีลักษณะ ผื่นแดงทำให้ผิวหนังจะหนาเป็นปื้น มีสะเก็ดขาวปกคลุม เมื่อสะเก็ดหลุดออกจะมองเห็นจุดเลือดเล็กๆ ใต้ผิวหนัง ผื่นสะเก็ดเงินส่วนมากจพบบริเวณที่มีการเสียดสี การเกา การแกะบ่อยๆ เช่น ศีรษะ ข้อศอก หรือหัวเข่า เป็นต้น บางรายก็พบความผิดปกติที่เล็บ มีสีเหลือง / น้ำตาล เป็นรอยบุ๋ม หรือมีจุดสีน้ำตาลใต้เล็บ บางรายอาจมีอาการรุนแรงจากข้ออักเสบรวมด้วย ควรรีบพบแพทย์ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจะทำให้เกิดอาการข้อผิดรูปถาวร

นอกจากนี้ผื่นสะเก็ดเงินสามารถพบบริเวณอื่นๆ ได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ลำตัว ก้นกบ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอวัยวะเพศ โดยการกระจายของผื่นจะเกิดขึ้นของทั้ง 2 ฝั่งร่ายกายเท่าๆ กัน

รู้หรือไม่ ?! โรคสะเก็ดเงิน … แค่เครียดก็เป็นได้

สาเหตุการเกิดโรคพบว่าการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังจะเร็วกว่าปกติในบริเวณที่เป็นผื่น ซึ่งการเกิดผื่นมีสาเหตุมาจากปัจจัยบางอย่างกระตุ้น เช่น อารมณ์เครียด ผิวหนังบาดเจ็บ การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน ผู้ป่วยสะเก็ดเงินจึงควรหลีกเลี่ยงการเสี่ยงให้เกิดปัจจัยดังกล่าว

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ❌

- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

- การสูบบุหรี่และความเครียด

- อาหารที่มีไขมันสูงและเนื้อแดง

- การซื้อยามากินเอง

สิ่งที่ควรทำ ✔️

- บำรุงผิวให้ชุ่มชิ้น

- พักผ่อนให้เพียงพอ

- ออกกำลังกายคุมน้ำหนัก

- พบแพทย์สม่ำเสมอ


โรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินเป็นภาวะภูมิต้านตนเองเรื้อรังที่ส่งผลต่อผิวหนังเป็นหลัก ซึ่งนําไปสู่การแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้เกิดหย่อมหนาและเป็นเกล็ดบนพื้นผิวของผิวหนัง แผ่นแปะเหล่านี้หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าคราบจุลินทรีย์สามารถปรากฏได้ทุกที่บนร่างกาย แต่มักพบที่ข้อศอก เข่า หนังศีรษะ และหลังส่วนล่าง

สาเหตุ

สาเหตุที่แท้จริงของโรคสะเก็ดเงินยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ แต่เชื่อกันว่าเชื่อมโยงกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ปัจจัยทางพันธุกรรมอาจมีบทบาทสําคัญในการพัฒนาของภาวะ เนื่องจากมักเกิดขึ้นในครอบครัว สิ่งกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด การบาดเจ็บที่ผิวหนัง การติดเชื้อ และยาบางชนิดอาจทําให้อาการของโรคสะเก็ดเงินแย่ลงได้

อาการ

ผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินอาจมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ผิวหนังสีแดงปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงินหนา

  • ผิวแห้งแตกจนเลือดออก

  • อาการคัน แสบร้อน หรือเจ็บปวด

  • เล็บหนา เป็นหลุม หรือเป็นสัน

  • ข้อต่อบวมและแข็ง (ในกรณีของโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน)

ประเภทของโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินมีหลายประเภทโดยที่พบมากที่สุดคือ:

  1. โรคสะเก็ดเงินคราบจุลินทรีย์: โดดเด่นด้วยหย่อมอักเสบที่ยกขึ้นปกคลุมด้วยเกล็ดสีขาวเงิน

  2. โรคสะเก็ดเงินในลําไส้: มักเริ่มในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาว โดยปรากฏเป็นรอยโรคขนาดเล็กรูปหยดน้ํา

  3. โรคสะเก็ดเงินผกผัน: เกิดขึ้นในรอยพับของผิวหนัง เช่น ใต้เต้านม ขาหนีบ หรือรอบก้น

  4. โรคสะเก็ดเงิน Pustular: เกี่ยวข้องกับตุ่มหนองสีขาว (แผลพุพองของหนองที่ไม่ติดเชื้อ) ล้อมรอบด้วยผิวหนังสีแดง

  5. Erytoderma: โรคสะเก็ดเงินรูปแบบที่รุนแรงและหายากซึ่งสามารถปกคลุมไปทั่วร่างกายด้วยผื่นแดงลอกซึ่งอาจคันหรือแสบร้อนอย่างรุนแรง

การวินิจฉัยและการรักษา

การวินิจฉัยมักเกี่ยวข้องกับการตรวจผิวหนังอย่างละเอียด การทบทวนประวัติทางการแพทย์ และบางครั้งการตรวจชิ้นเนื้อผิวหนังเพื่อแยกเผ่าอาการอื่นๆ

ตัวเลือกการรักษาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงและประเภทของโรคสะเก็ดเงิน และอาจรวมถึง:

  • การรักษาเฉพาะที่: คอร์ติโคสเตียรอยด์ วิตามินดีอะนาล็อก หรือเรตินอยด์เพื่อลดการอักเสบและชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว

  • การส่องไฟ: ควบคุมการสัมผัสกับแสงอัลตราไวโอเลต

  • ยาตามระบบ: ยารับประทานหรือยาฉีดที่ส่งผลต่อร่างกายทั้งหมด เช่น เมโธเทรกเซต ไซโคลสปอรีน หรือชีวภาพ

การอยู่กับโรคสะเก็ดเงิน

การจัดการโรคสะเก็ดเงินจําเป็นต้องมีการรักษาทางการแพทย์และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตร่วมกัน การรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี การจัดการความเครียด และการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทราบสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินได้อย่างมาก การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเป็นประจําสามารถช่วยติดตามอาการและปรับแผนการรักษาได้ตามความจําเป็น

หากคุณสงสัยว่าคุณเป็นโรคสะเก็ดเงินหรือมีอาการที่เกี่ยวข้อง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อการประเมินและการจัดการที่เหมาะสม ที่ Asoke Skin Hospital เราให้การดูแลเฉพาะทางที่เหมาะกับความต้องการด้านสุขภาพผิวเฉพาะของคุณ


พบกับเราที่โรงพยาบาลผิวหนังอโศก

ที่ Asoke Skin Hospital แพทย์ผิวหนังโรคสะเก็ดเงินของเรามีความเชี่ยวชาญสูงในการวินิจฉัยและรักษาโรคสะเก็ดเงินทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นภาวะแพ้ภูมิตัวเองเรื้อรังที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของคุณ ทีมงานของเราใช้การรักษาตามหลักฐานล่าสุดที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงการบําบัดเฉพาะที่ การส่องไฟบําบัด และยาตามระบบ

แพทย์ผิวหนังของเราทุ่มเทเพื่อติดตามการวิจัยล่าสุดและความก้าวหน้าในการจัดการโรคสะเก็ดเงิน พวกเขาทําการประเมินที่ครอบคลุมเพื่อกําหนดความรุนแรงของอาการของคุณและโรคร่วมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางการดูแลของคุณอย่างละเอียดและเป็นส่วนตัว

ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การศึกษาผู้ป่วยเราช่วยให้บุคคลเข้าใจสภาพของตนเองและตัวเลือกการรักษาที่หลากหลาย เราเชื่อว่าการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างแพทย์ผิวหนังและผู้ป่วยเป็นสิ่งสําคัญในการกําหนดแผนการจัดการที่เหมาะสมที่สุด

หากคุณกําลังต่อสู้กับโรคสะเก็ดเงินหรือต้องการคําปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโรคสะเก็ดเงิน เราขอเชิญคุณไปรับการรักษาที่ Asoke Skin Hospital ซึ่งความมุ่งมั่นของเราในความเป็นเลิศและการดูแลที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสําหรับสุขภาพผิวของคุณ

ก่อน
ก่อน

Filler (สารเต็มเต็มฟิลเลอร์)

ต่อไป
ต่อไป

การส่องไฟเอ็กซิเมอร์